ผจญภัย เรือ ต.

เมื่อเราไต่ระดับลงสู่ความลึกของทะเล สีแดงเป็นสีแรกที่จะหายไปก่อน ด้วยความยาวคลื่นมากที่สุด ทำให้มีพลังงานน้อยที่สุด ตั้งแต่ห้าเมตรสีแดงเริ่มหม่นลง พอผ่านช่วงสิบเมตรลงไปก็แทบจะหายสนิท

เรามองดูมือที่นิ้วก้อยซ้ายด้านนอกเพิ่งถูกขูดขีดเร็วๆ จากการลากผ่านลานเพรียงหนาแน่น ที่ระดับความลึกราว 20 ม. ที่กราบด้านหนึ่งของเรือ ต.94 เห็นรอยดำเปื้อนเป็นเส้นจางๆ ยาวไม่ถึงเซ็น เจ็บแสบเมื่อโดนน้ำทะเล

อุ๊ยนิ้วเปื้อน เอามือขวาไปถูๆ หายแสบไปนิด

รอยดำเปื้อนบางลงหน่อยแล้วกลับหนาขึ้นอีก อิหยังวะ สงสัยแล้วก็ว่ายน้ำต่อ

ในบรรดา Dive site ของชาวสกูบ้า เรือจมเป็นหมวดหนึ่งที่มีความนิยมอยู่มาก เราคนนึงล่ะชอบเรือจมซะจริงๆ มุดมาก็หลายลำ ไม่นานมานี้เองเพิ่งได้ยินข่าวการจมเรือที่ปลดระวางลงสู่ก้นทะเลเพื่อเป็นแหล่งปะการังเทียมและเป็นแหล่งเรียนรู้ ท่องเที่ยว เพิ่งจะแป๊บเดียวก็มีโอกาสได้ไปดำโดยที่ไม่ได้รู้แผนมาก่อนด้วย ดีใจมาก

ทุ่นสีเหลืองใหม่เอี่ยมลอยกลางทะเล กำหนดจุดสี่มุมแสดงตำแหน่งเรือปลดประจำการที่ถูกจมไว้เป็นแหล่งปะการังเทียมและแหล่งดำน้ำ ทั้ง ต. 94 และ ต. 95 แสมสารวันฟ้าใส ผิวน้ำแทบจะไม่มีคลื่น ถามครูตุ้ยว่า มีปะการังมาเกาะแล้วยังครู ครูว่ามีแต่เพรียงที่คมแสนคม เรือเพิ่งถูกจมได้สองเดือน จึงยังไม่มีดอกไม้ปะการังใดๆ มางอกงาม เมื่อรอให้กลุ่มเราอันประกอบไปด้วยลูกฝูง 5 ครู 1 ครูผู้ช่วยอีก 2 สำหรับไดฟ์นี้พร้อมกันดีแล้ว พวกเราก็จมตัวลงแล้วไต่โซ่อ้วนๆ ใหม่เอี่ยมลงสู่ความเงียบสงบของก้นทะเล แม้แต่ที่ตัวโซ่ บรรดาน้องเพรียงก็เริ่มมาเกาะกันแล้ว เราค่อยๆ ใช้นิ้วคีบพยุงตัวพลางปรับสมดุลในหู เพรียงจิ้มนิ้วหนาๆ จึ้กแล้วจึ้กเล่า ไม่เจ็บซักเท่าไหร่หรอกน่า.. บอกตัวเอง

เมื่อถึงก้นทะเลน้ำไม่ใสเหมือนสองไดฟ์แรกของวัน เรือ ต.94 จอดตะคุ่มๆ อยู่ในน้ำขุ่นเล็กน้อยสีเขียวอมฟ้า เราค่อยๆ ว่ายชมตัวเรือจากด้านหลังสู่ด้านหน้า แทนที่จะเป็นดอกไม้ทะเลหรือปะการังอ่อนชูช่อ แต่ขดเชือกตรงนั้นตรงนี้ที่ขาดแล้วลอยฟูฟ่อง กลับดูผ่านๆ คล้ายดอกไม้ปลอมอยู่เหมือนกัน ตกลงกันไว้ตั้งแต่บนเรือแล้วว่าครูจะให้เรามุดเข้าไปจากช่องประตูด้านขวาของลำเรือ ร่อนขึ้นบันไดสองสามขั้น สู่ห้องกัปตันแล้วชะโงกหน้าออกมาให้ครูถ่ายรูปทีละสองคน

คนฉายเดี่ยวอย่างเรา ครูตุ้ยบอกให้โผล่ช่องหน้าต่างคู่กับครูจิล และว่ายเข้าไปเป็นคู่สุดท้าย ประตูที่แคบอยู่แล้วยิ่งดูแคบมากเป็นพิเศษเมื่อมีนักดำน้ำตัวอ้วนแบกถังกับห้อยสายนั่นนี่พะรุงพะรัง แทบทุกอณูผิวของเรือ ต. ถูกปกคลุมด้วยเพรียงแน่นขนัดไปหมดจนเหมือนผิวเจ้ามังกรร้ายที่ปกป้องเจ้าตัวจากการรุกราน เราโดนขูดตรงนั้นตรงนี้ แล้วก็โผล่มาที่ช่องหน้าต่างของกัปตันเพื่อชะโงกทำหน้าแป้นแล้นถ่ายรูป จากนั้นก็วกตัวไปแทบจะเหมือนยูเทิร์นไปทางซ้าย ร่อนข้ามบันไดอีกสองสามขั้นเพื่อขึ้นสู่ชั้นบนอีกชั้นที่เหมือนดาดฟ้า

บนดาดฟ้ามีโครงเหล็กที่เคยเป็นเหมือนเสาเรดาร์อยู่ระเกะระกะ ไม่มีพื้นผิวไหนที่ไร้เพรียง เรามุดเสามุดคานและจะวกไปรวมตัวกับชาวคณะที่หัวเรือ อยู่ๆ ก็พบกับเจ้าเต่าตัวโตเบ้อเริ่ม แหวกว่ายพุ่งตัวออกมาจากห้องกัปตัน สงสัยจะแอบนอนอยู่ในนั้นแล้วรำคาญเรานี่เองแหละเลยพุ่งหนี เราตามถ่ายรูปน้องเต่าอยู่คนเดียว ซึ่งน้องก็ดันมุ่งหน้าไปหาชาวคณะจำนวนมากด้านหัวเรือซะด้วย เสียงกรี๊ดของชาวสกูบ้ามันอาจจะไม่ดังออกมาเป็นเสียงแหลมสูง แต่จะเป็นการหอบหายใจ พ่นและสูบอากาศกันโครมครามมากกว่า ทันทีที่เจ้าเต่าเผยตัวสู่ชาวคณะทั้งกลุ่มเราและกลุ่มข้างๆ น้องก็กลายเป็นดาราหน้ากล้องทันที เราซึ่งได้ว่ายตามน้องกันตามลำพังสองคนมานาทีนึงแล้ว ก็เลยถอยตัวลงต่ำ ให้คนอื่นได้ดูน้องบ้าง

ขณะนั้นน้องลอยตัวอยู่เหนือส่วนห้องกัปตัน เราเห็นคนที่เพิ่งมุดเข้าห้องกัปตัน คงกำลังงงว่ามองลอดหน้าต่างทำไมมีแต่ช่วงขาคนอื่นด้านนอก เราเลยส่งสัญญาณบอกว่า มีเต่าอยู่บนห้องนี้ ให้รีบว่ายออกมา ทำให้เพื่อนๆ อีกกลุ่มได้มีโอกาสมามุงเต่าด้วยกัน

จึ้กเข้าให้ แล้วก็อีกจึ้ก อีกจึ้ก

เวลาที่ไม่ได้โฟกัสกับการพยุงตัวให้ดี เราก็โดนน้องเพรียงจิ้มเข้าอีก

ไดฟ์นั้นสนุกสนานตื่นเต้นกันพอแล้ว ครูตุ้ยพาทุกคนไต่โซ่อ้วนๆ กลับ และเนื่องจากเป็นไดฟ์สุดท้ายของวันแล้วเราก็ร่าเริงว่ายเล่นพุ่งไปมาอยู่ที่ความลึกสุดเกือบ 23 ม. เพื่อความปลอดภัยเลยต้องทำ Safety Stop นานหน่อย ระหว่างนั้นครูขอดูไดฟ์คอมพ์ เรากระตุกข้อมือพลาดไปนิด จึ้กกก ใหญ่ๆ กึ่งเพรียงกึ่งโซ่เหล็กเขรอะสนิม คราวนี้ก้มมองนิ้วโป้ง

หนังเปิดออกมาเป็นปากฉลาม ของเหลวสีดำไหลออกมา ยิ่งลูบน้ำหมึกดำๆ ก็ยิ่งกระจายปะปนกับน้ำทะเลไม่หยุด

เอ้านี่มันเลือดนี่หว่าโว้ยยยย พลิกมือไปดูรอบๆ โอ้โห ไม่ใช่รอยเปื้อนเลย ขีดจิ๋วๆ ตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย เลือดทั้งนั้น คิดได้ถึงตรงนี้จะเป็นลม เพราะกลัวเลือดตัวเอง เริ่มรู้สึกแสบ เริ่มงอแง

พอขึ้นเรือก็ปรึกษาชาวแก๊งในวันนั้น รวมถึงน้องป๊อบน้องพยาบาลที่มาเดี่ยวเหมือนกัน น้องว่า ฉีดกระตุ้นบาดทะยักเถอะพี่ ครูบอกว่า ไปกระตุ้นซักสามเข็มนะ ดีกว่าโดนฟอร์มาลีนเข็มเดียว เราที่กลัวเข็ม และมั่นใจว่าตัวเองใช้โควต้าโดนจิ้มครบไปแล้วของปีนี้ และยิ่งเพิ่งบริจาคเลือดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองแขนพับยังไม่หายม่วงดี ถึงกับหน้าซีดเซียว กินไอติม กินขนมเท่าไหร่ก็ไม่ช่วย (แต่ก็กินอยู่ดี)

พอขึ้นฝั่งมาแล้ว ก็ยังลีลาท่ามากไม่ยอมไปหาหมอ ยังเลือกไปเที่ยวไปเล่นกับเจ้ามิคกี้กับแม่และหลานต่อ แต่คุ้มค่ามากเพราะอากาศดีเกินกว่าจะหันหลังแล้วจากไปง่ายๆ

แล้วพออิ่ม พอเหนื่อยก็ขี้เกียจขับกลับ เปลี่ยนแผนนอนสัตหีบมันดื้อๆ

ที่พักไม่มีที่จอด แนะนำให้ไปจอดในวัด แต่เลี้ยวผิดเข้าไปประตูที่เป็นส่วนของฌาปณสถาน มืดตึ้บ ขับวนอ้อมต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านลิบหายจากวงแสงไฟหน้ารถ ในหัวก็จินตนาการถึงตัวเองตอนโทร.ไปหาพี่แจ๊คเดอะโกสต์ เอิ่มพี่แจ๊คคะ คือว่าประตูมันอยู่ใกล้กันเลยเลี้ยวผิดค่ะ..

มาการิต้าที่บาร์ดาดฟ้าท่ามกลางแสงจันทร์สว่างร้อนวาบในท้อง กับวันคาร์ดิโอที่แสนเหน็ดเหนื่อย ทำเอาหลับเหมือนสลบ จงใจไปนอนโฮสเทลแบบดอร์มเผื่อได้เพื่อนใหม่ สรุปไม่ได้เจอใครทั้งนั้น

ท่ามกลางแดดแผดๆ ในวันอาทิตย์ รถมอมแมมคันหนึ่งจอดฝั่งตรงข้ามคลีนิคแถวพัทยา

เจ้าอ้วนวิ่งหัวฟูข้ามถนน แล้วเข้าไปนั่งสั่นขาข้างใน คือมาเพื่อจะถามว่า ไม่ฉีดไม่ได้เหรอคะ หมอหนุ่มมือนุ่มจับทั้งสองมือของเราพลิกไปมาอย่างเบาๆ ดูแผลนั้นแผลนี้ บางแผลเราก็เพิ่งจะเห็นพร้อมหมอนี่แหละ มีรูเล็กๆ ที่อุ้งมือขวาอีกหลายรู รวมๆ แล้วน่าจะเกินสิบ

ฉีดกระตุ้นซักเข็มนะครับ คุณหมอบอก แล้วก็เอายาฆ่าเชื้อไปกินซักสองชนิด เพราะบาดแผลเกิดในทะเล ดักๆ ไว้ก่อน ยาฆ่าเชื้อเม็ดใหญ่เท่าหัวแม่โป้งตีนที่มาแกะดูที่บ้าน ทำเอาจิตใจท้อถอย คุณพยาบาลน่ารักใจดีมากๆ หลอกให้เราเล่าเรื่องดำน้ำก่อนจะแอบฉีดวัคซีนทั้งเร็วทั้งมือเบาจนแทบไม่รู้สึกเลย

เอาล่ะ เรือจมทั้งหลาย ต่อไปนี้ข้าไม่กลัวสนิมเอ็งแล้ว.. เจอกัน!

——-

แถมท้าย 1

คุณพยาบาล : เดี๋ยวเขียนใบรับรองแพทย์ให้นะคะ

แอ้ : ขอบคุณค่ะ

คุณพยาบาล : ให้เขียนว่าโดนอะไรมานะคะ

แอ้ : เพรียงบาดค่ะ

คุณพยาบาล : เพรียงเหรอคะ เขียนว่าหอยบาดได้มั้ยคะ

แอ้ : ไม่เอาหอยไม่ได้เหรอ มันไม่เท่ห์อะ มันไปทางตลกเลยนะคะ

สรุปใบรับรองแพทย์จริง ได้มาแค่ “บาดแผลถลอกที่มือ”

แล้วเลือดชั้นอ่าาาา ที่ไหลเป็นทางอยู่ในทะเลนั่น ฮือออ เลือดชั้นโดนด้อยค่าาา

——-

แถมท้าย 2

ครูตุ้ย : ปีหน้าจะไปมาลาปัสกัว สนมั้ย

แอ้ : ครูๆ พี่มีคำถาม

ครูตุ้ย : ว่าไงครับ

แอ้ : หลังจากขายไตเนี่ย อีกกี่เดือนเราถึงจะดำน้ำได้คะ

——-

Reference : วันนี้ไปกับเรือ The great white shark น่าจะหรูสุดในแสมสารแล้ว สวย ของกินเพียบรวมเสิร์ฟกาแฟเครื่องดื่มอร่อยๆ ทั้งวัน น่ารักที่สุดคือพยายามลดพลาสติกมากๆ แม้แต่หลอดยังเป็นหลอดแก้ว รักมาก

ครูตุ้ยและทีมงานจาก https://www.facebook.com/Deklennam สนุกสนานได้ความรู้และมีแพชชั่นในการถ่ายรูปมาก แต่ครูหาตัวเล็กไม่เจอนะ สายแลนด์สเคปกันไป